ใช้โปร ผ่อน 0% อย่างไร ให้ห่างไกลหนี้

ผ่อน 0% โปรดี ที่ต้องระวัง!

สำหรับคนใช้บัตรเครดิตเรามักจะคุ้นเคยกับโปรผ่อน 0% อยู่ไม่น้อย และหลายครั้งที่โปรผ่อน 0% ทำให้เรารู้สึกว่า เมื่อคำนวณราคาสินค้าหรือบริการทั้งหมด หารเป็นอัตราการผ่อนต่อเดือน จำนวนเงินที่ต้องผ่อนจ่ายต่อเดือนเป็นยอดที่ไม่สูง อย่างไรก็จ่ายไหว แต่นักผ่อนหลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่า โปรผ่อน 0% อาจเป็นจุดตั้งต้นที่ทำให้เราเข้าสู่วงจรหนี้แบบไม่รู้ตัว วันนี้เราจึงอยากพาคุณไปเจาะลึกสิ่งที่ควรระวังของ โปรผ่อน 0% นี้กัน

ข้อดี - ข้อเสีย ของ โปรผ่อน 0%

ข้อดี

  • ช่วยให้เราไม่ต้องจ่ายเงินสด หรือใช้เงินก้อน
  • สามารถแบ่งจ่ายค่าสินค้าเป็นงวดๆ เป็นรายเดือนได้
  • ช่วยให้เราไม่เสียดอกเบี้ยในการผ่อนชำระ
  • กรณีใช้บัตรเครดิตผ่อน จะได้รับแต้มสะสมไว้แลกของรางวัลหรือได้รับเครดิตเงินคืนอีกด้วย

ข้อเสีย

  • เราต้องมีบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือบัตรผ่อนสินค้า ไว้ในมือ
  • หากเราผ่อน 0% หลายชิ้น ใช้บัตรเครดิตหลายใบ จนยอดผ่อนชำระเกินกว่ารายได้ต่อเดือน จะทำให้คุณสร้างหนี้ขึ้นมาได้

ผ่อน 0% มากเกินไป อาจทำให้หนี้ท่วมได้

จุดเริ่มต้นของการเป็นหนี้บัตรเครดิต ส่วนใหญ่เกิดจากการผ่อน 0% หลายใบ เพราะมักคิดว่าผ่อนไหว จนเมื่อใดที่คุณเริ่มไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้เต็มจำนวน แต่เริ่มจ่ายขั้นต่ำของบัตรเครดิต นี่เป็นสัญญาณเตือนแรกที่คุณต้องระวังให้มาก เพราะดอกเบี้ยที่ตามมาจะไม่ใช่ดอกเบี้ย 0% อีกต่อไป แต่จะเป็นดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่สูงขึ้นมาแทน ยิ่งหากมีบัตรเครดิตหลายใบ ดอกเบี้ยก็จะยิ่งทวีสูงขึ้น

และหากคุณเริ่มชำระบัตรเครดิตล่าช้า คุณก็จะเจอค่าทวงบิล รวมถึง ดอกเบี้ยจากการผิดนัดชำระเพิ่มขึ้นอีกได้ และเมื่อไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิต ติดต่อกันนานถึง 3 เดือน ประวัติการชำระหนี้ จะถูกบันทึกในเครดิตบูโร ทำให้ไม่สามารถกู้และทำธุรกรรมสินเชื่อสถาบันการเงินอื่นได้ และหากคุณไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ ก็อาจถึงขั้นโดนฟ้องร้องต่อไป

ใช้โปรผ่อน 0% อย่างไรให้ห่างไกลหนี้?

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า แท้จริงแล้ว โปรผ่อนสินค้า 0% นั้น มีประโยชน์ แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ดังนั้น วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักการใช้โปรผ่อน 0% ที่นอกจากจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดแล้ว ยังช่วยให้ห่างไกลหนี้อีกด้วย

1. เช็กว่า ดอกเบี้ย 0% ทุกงวด หรือไม่

ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระ เราอยากให้คุณอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขของโปรโมชั่นอย่างละเอียดทุกครั้ง เพราะบางโปรโมชั่นที่แม้จะระบุว่า ผ่อน 12 เดือน แต่ดอกเบี้ย 0% แค่ 3 เดือน หรือแค่ 6 เดือนเท่านั้น หากเป็นแบบนี้ต้องระวัง เพราะคุณต้องจ่ายดอกเบี้ยในช่วงหลังๆ จนกว่าจะผ่อนสินค้าหมด

2. สินค้าหรือบริการนั้น “จำเป็น” หรือไม่

เราอยากให้คุณพิจารณาให้รอบคอบว่า สินค้าหรือบริการนั้นๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากน้อยแค่ไหน หากเป็นการผ่อนสินค้าที่จำเป็น อาทิ ผ่อนชำระค่าเบี้ยประกัน อุปกรณ์ทำงาน ค่าใช้จ่ายการซ่อมรถยนต์ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการทำงานและใช้ชีวิต แต่หากเป็นการผ่อนสินค้าในหมวดสิ่งของฟุ่มเฟือย หรือซื้อเพื่อตอบสนองความอยากส่วนตัว แบบนี้ก็ยังไม่ควรนัก

3. มีวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด

หากต้องการผ่อน 0% คุณต้องคำนวณให้ดีว่า ไม่ควรมีหนี้สินเกินกว่า 40-45% ของรายได้ในแต่ละเดือน อาทิ มีเงินเดือน 30,000 บาท หนี้สินต่อเดือนไม่ควรเกิน 12,000 - 13,500 บาท

สำคัญ เมื่อคุณเลือกผ่อน 0% แล้ว อย่าลืม!! ว่า ต้องชำระค่างวด “เต็ม” และ “ตรงเวลา” มิเช่นนั้นหายนะทางการเงินของคุณจะค่อยๆ คืบคลานเข้ามาแน่นอน

ผ่อน 0% จนเป็นหนี้บัตรเครดิตหลายใบ ทำอย่างไรดี?

สำหรับใครก็ตามที่ใช้โปรผ่อนสินค้า 0% จนก้าวเข้าสู่กับดักหนี้ และไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับหนี้ที่เพิ่มมาแบบไม่ทันตั้งตัวอย่างไรนั้น เราแนะนำให้คุณเลือกปิดหนี้ด้วยการ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต หรือ สินเชื่อรวมหนี้ เพราะการรวมหนี้บัตรเครดิตจะช่วยให้คุณมียอดผ่อนต่อเดือนลดลง โดยอาจทำกับรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับธนาคารเดิม หรือธนาคารใหม่ก็ได้ วิธีนี้นอกจากจะได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าดอกเบี้ยจากหนี้สินก้อนเดิมแล้ว ยังสามารถนำเงินมาโปะหนี้บัตรเครดิตเดิมทั้งหมดได้อีกด้วย

อยากรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ต้องทำอย่างไร?

1. เช็กยอดหนี้บัตรเครดิตที่มีทั้งหมด เพื่อวางแผนว่าจะต้องขอสินเชื่อแบบไหน

สินเชื่อบุคคล : เหมาะสำหรับคนมีหนี้บัตรเครดิตไม่มาก สามารถขอได้โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน บางสถาบันการเงินจะมีสินเชื่อพิเศษที่ให้วงเงินสูง เพื่อใช้รีไฟแนนซ์บัตรเครดิตโดยเฉพาะ

สินเชื่อบ้าน / รถ แลกเงิน : เหมาะสำหรับคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิตหลายใบ หรือเป็นหนี้ก้อนโต ไม่สามารถใช้เงินจากสินเชื่อส่วนบุคคลโปะหมดได้ การนำหลักทรัพย์มาค้ำประกัน จะช่วยเพิ่มยอดวงเงินกู้ยืมมารีไฟแนนซ์บัตรเครดิตได้

ทั้งนี้ทั้งนั้น ควรตั้งวงเงินสินเชื่อเผื่อให้มากกว่าหนี้สินที่มีอยู่ เนื่องจากบางครั้งสถาบันการเงินอาจพิจารณาให้สินเชื่อไม่เต็มจำนวน

2. เปรียบเทียบสินเชื่อให้ดี

ให้พิจารณาเลือกสินเชื่อที่ให้โปรโมชั่นที่คุ้มค่า และเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด เช่น บางแห่งให้ดอกเบี้ยถูก แต่ผ่อนต่อเดือนสูง อาจส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณได้ ดังนั้น คุณอาจเลือกสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยสูงขึ้นอีกนิด แต่สามารถยืดหยุ่นได้มากกว่า ทั้งจำนวนผ่อนต่อเดือน หรือระยะเวลาในการผ่อน

3. หากวงเงินสินเชื่อไม่พอ ให้โปะบัตรที่มีดอกเบี้ยแพงก่อน

คุณควรนำเงินที่ได้ ไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยแพงที่สุดก่อน เพื่อลดภาระจากดอกเบี้ยลง

ทั้งหมดนี้ คือ ความจริงของโปรผ่อน 0% ที่เรานำมาฝาก และเพื่อป้องกันไม่ให้โปรผ่อน 0% กลายเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรหนี้ที่จะทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน เราแนะนำให้คุณใช้โปรผ่อน 0% กับรายการสินค้าหรือบริการที่จำเป็น และลดการใช้จ่ายเกินความจำเป็นลง เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์จากโปร 0% อย่างเต็มที่ ไม่ปวดหัวกับยอดหนี้ที่จะตามมาทีหลัง

และหากคุณเป็นหนึ่งคนที่ผ่อนสินค้าและบริการด้วยโปรผ่อน 0% อยู่ ณ ตอนนี้ เราอยากแนะนำ ผลิตภัณฑ์ วงเงินสินเชื่อเอ็กซ์ตร้าแคช (Extra Cash) สินเชื่อเงินสด ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อใช้เป็นวงเงินสำรอง หรือใช้เพื่อจ่ายค่าบัตรเครดิตเต็มจำนวน เพื่อลดดอกเบี้ยจากการจ่ายบัตรขั้นต่ำ ด้วยดอกเบี้ยเพียง 11.88% ต่อปี 24 รอบบัญชีแรก (ถูกกว่าการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต ที่มีดอกเบี้ยสูงถึง 16% ต่อปี)

สมัคร สินเชื่อบุคคลเอ็กซ์ตร้าแคช ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ 3 ช่องทาง


เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคล

  • กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
  • อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 18% - 25% ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ย CLR ณ. วันที่ 4 ตุลาคม 2566 = 20% ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยลอยตัวสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้

หมายเหตุ

  • วงเงินอนุมัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร
  • อัตราดอกเบี้ยและ ข้อกำหนดเงื่อนไขเป็นไปตามธนาคารประกาศกำหนด
  • เวลาให้บริการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8:30 – 17:30 น.
  • ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม CIMB Thai Care Center โทร. 02 626 7777

Share :