หยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิต

รู้ทันผลเสีย ทำไมการหยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิต จึงไม่ใช่ทางออก

ในยุคที่การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นเรื่องปกติ การมีหนี้สินจึงกลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับใครหลายคน อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังเผชิญกับภาระหนี้สิน ไม่ว่าจะเป็น หนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือ สินเชื่อส่วนบุคคล และรู้สึกว่าการหมุนเงินจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ และกำลังชั่งใจว่าการหยุดจ่ายหนี้จะเป็นทางออกที่ช่วยให้คุณปิดหนี้ได้จริงหรือไม่ และก่อนที่จะตัดสินใจหยุดจ่ายหนี้ เราอยากให้คุณลองอ่านบทความนี้เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการหยุดจ่ายหนี้ และหาทางออกที่จะช่วยให้คุณปิดหนี้และรักษาประวัติเครดิตทางเงินที่ดีไว้ได้

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการหยุดจ่ายหนี้และการ "แฮร์คัทหนี้"


หลายคนเชื่อว่า การหยุดจ่ายหนี้สักระยะหนึ่ง จะกระตุ้นให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินยื่นข้อเสนอ "แฮร์คัทหนี้ (Hair Cut)" หรือการลดยอดหนี้ลง เพื่อให้ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ง่ายขึ้น โดยหวังว่าการถูกฟ้องร้องจะนำไปสู่การเจรจาต่อรองและลดยอดหนี้ได้

แต่ในความจริงแล้ว ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า การหยุดจ่ายหนี้จะทำให้คุณได้รับข้อเสนอจากธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อลดยอดหนี้หรือทำการแฮร์คัทหนี้ (Hair Cut) และการหยุดจ่ายหนี้ไปดื้อๆ อาจนำไปสู่ผลเสียมากกว่าผลดี เนื่องจากกระบวนการทางกฎหมายมีความซับซ้อนและใช้เวลานาน อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินอาจไม่ยินยอมลดยอดหนี้ตามที่คาดหวัง

ข้อเสียของการหยุดจ่ายหนี้

ผลกระทบจากการหยุดจ่ายหนี้บัตรเครดิต มีอะไรบ้าง


1. เครดิตทางการเงินเสียหายอย่างหนัก


การหยุดจ่ายหนี้ทำให้สถานะของคุณเปลี่ยนจากลูกหนี้ชั้นดีเป็นลูกหนี้ผิดนัดชำระ ซึ่งจะถูกบันทึกในประวัติเครดิตบูโร (Credit Bureau ) ของคุณส่งผลให้การขอสินเชื่อในอนาคตเป็นเรื่องยาก ไม่ว่าจะเป็น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ หรือ สินเชื่อส่วนบุคคล อื่น ๆ ธนาคารและสถาบันการเงินจะมองว่าคุณเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและปฏิเสธการให้สินเชื่อ

2. ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


การหยุดจ่ายหนี้ นอกจากจะส่งผลเสียโดยตรงต่อเครดิตทางการเงินของตัวคุณเองแล้ว คุณอาจต้องเผชิญกับค่าติดตามทวงถามหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ที่สูงขึ้นจากอัตราปกติ ซึ่งจะทำให้ยอดหนี้ของคุณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้

3.การดำเนินคดีและผลกระทบทางกฎหมาย


หลายคนอาจจะมองว่า จุดประสงค์ในการหยุดจ่ายหนี้ก็เพื่อให้ธนาคารและสถาบันการเงินดำเนินคดีโดยการฟ้องร้อง โดยมีจุดประสงค์ในการลดยอดหนี้ที่มีอยู่ลง ซึ่งในความเป็นจริงเรื่องไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะธนาคารหรือสถาบันการเงินมีสิทธิ์ดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเรียกคืนหนี้ ขั้นตอนนี้อาจจะไม่ได้หยุดที่การได้ลดยอดหนี้ แต่อาจส่งผลร้ายแรงที่อาจทำให้คุณกลายเป็นบุคคลล้มละลาย หรือหากการฟ้องร้องไปถึงขั้นขึ้นศาล คุณยังจะต้องมีค่าใช้จ่ายในขั้นตอนนี้ด้วยเช่นกัน

4. การสูญเสียโอกาสขอสินเชื่อในอนาคต


การหยุดจ่ายหนี้ นอกจากจะทำให้คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้น ขอกู้สินเชื่อยากขึ้นแล้ว การหยุดจ่ายหนี้ทำให้ลดโอกาสการทำธุรกรรมการเงินกับธนาคาร เพราะความน่าเชื่อถือจากประวัติการเงินหรือประวัติการชำระหนี้ที่สถาบันทางการเงินตรวจสอบก็จะน้อยลงตามด้วย

อยากปิดหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียวช่วยได้


ปัจจุบันธนาคารและสถาบันการเงินมีบริการ สินเชื่อรวมหนี้บัตรเครดิต หรือรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต เพื่อให้คุณมีเงินก้อนไปปิดหนี้ และชำระหนี้คืนกับสินเชื่อก้อนใหม่ที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า การเลือกรวมหนี้เป็นก้อนเดียวจะช่วยลดภาระการจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนของคุณลง และยังช่วยป้องกันไม่ให้หนี้ที่คุณมีกลายเป็นหนี้เสีย ที่อาจจะทำให้ประวัติเครดิตทางการเงินของคุณด่างพร้อยได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจเลือกสินเชื่อรวมหนี้ หรือสินเชื่อเงินก้อนเพื่อปิดหนี้ ควรศึกษาเงื่อนไขและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละสถาบันการเงินอย่างละเอียด เพื่อให้ได้สินเชื่อที่เหมาะสมกับความต้องการและสถานะทางการเงินของคุณมากที่สุด

การตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการหนี้สินเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การหยุดจ่ายหนี้อาจดูเหมือนเป็นทางออกที่ง่าย แต่ผลกระทบในระยะยาวอาจรุนแรงกว่าที่คุณคิด การเจรจา การขอความช่วยเหลือ และการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบ เป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการจัดการหนี้สินและสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต

รวมหนี้เป็นก้อนเดียว รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ด้วยสินเชื่อบุคคล ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

สำหรับคนที่แบกภาระหนี้อยู่หลายก้อน อยากรวมหนี้ทุกก้อนเป็นก้อนเดียว และอยากรักษาประวัติเครดิตที่ดีไว้ คุณสามารถเลือกใช้สินเชื่อเงินก้อนปิดหนี้ หรือรวมหนี้บัตรเครดิตเป็นก้อนเดียวได้ ด้วย สินเชื่อบุคคล เพอร์ซัลนัลแคช (Personal Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สินเชื่อรวมหนี้ ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระการจ่ายหนี้ของคุณในแต่ละเดือนให้เบาลง ไม่ต้องปวดหัวกับการจ่ายหนี้หลายทาง ไม่ต้องแบกดอกเบี้ยรายเดือนที่หนักเกินไป ไม่ต้องกลัวว่าจะกลายเป็นหนี้เสีย

สมัครสินเชื่อรวมหนี้ สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช (Personal Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย

สินเชื่อบุคคล เพอร์ซัลนัลแคช (Personal Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สินเชื่อรวมหนี้ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ดอกเบี้ยต่ำ ที่จะช่วยให้คุณรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ปิดหนี้บัตรเครดิตได้เร็วขึ้น สำหรับพนักงานประจำที่มีเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป สมัครสินเชื่อบุคคล เพอร์ซัลนัลแคช ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้ 3 ช่องทาง

เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคล


  • 9.99% ต่อปี อายุสัญญา 12 เดือน
  • กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
  • อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 9.99% - 25% ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารประกาศกำหนด

หมายเหตุ

  • วงเงินอนุมัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร
  • อัตราดอกเบี้ยและ ข้อกำหนดเงื่อนไขเป็นไปตามธนาคารประกาศกำหนด
  • เวลาให้บริการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8:30 – 17:30 น.
  • ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม CIMB THAI Care Center โทร. 02 626 7777

Share :