จ่ายขั้นต่ำ vs ผ่อนรายเดือน แบบไหนปิดหนี้บัตรเครดิตเร็วกว่า

หนี้บัตรเครดิต: จ่ายขั้นต่ำ หรือ ผ่อนรายเดือน เลือกแบบไหนปิดหนี้ไวกว่า?

การมีบัตรเครดิตก็เหมือนดาบสองคม แม้บัตรเครดิตจะมีประโยชน์ในยามจำเป็น แต่ถ้าใช้ไม่ระวังก็อาจทำให้หนี้สินพอกพูนได้ หนึ่งในปัญหาที่คนใช้บัตรเครดิตหลายคนเจอคือการ "จ่ายขั้นต่ำ" หรือ "ผ่อนจ่ายรายเดือน" ซึ่งเป็นสองทางเลือกในการชำระหนี้บัตรเครดิต แล้วแบบไหนจะช่วยให้ปิดหนี้บัตรเครดิตได้ไวกว่ากัน? บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยและแนะนำวิธีจัดการหนี้บัตรเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพ

ทำความเข้าใจการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต


การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต คือ การจ่ายเงินเพียงบางส่วนของยอดบัตรเครดิตที่ใช้ทั้งหมดตามธนาคารเจ้าของบัตรกำหนด (ปกติจะอยู่ที่ 5-10% ของยอดคงค้างในแต่ละเดือน) การจ่ายค่าบัตรเครดิตแบบขั้นต่ำทำให้คุณรู้สึกว่าไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่จ่ายค่าบัตรเครดิตทั้งหมด มีเงินสดเหลือพอที่จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ช่วยประคับประคองสถานะทางการเงินในระยะสั้นได้ แต่ข้อเสียคือดอกเบี้ยจะถูกคิดจากยอดคงค้างที่เหลือ ทำให้หนี้สินพอกพูนมากขึ้นและใช้เวลานานกว่าจะปิดหนี้ได้หมด

อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 16% ต่อปี (อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารและประเภทของบัตรเครดิต) ซึ่งการจ่ายขั้นต่ำจะทำให้คุณถูกคิดดอกเบี้ย 2 ต่อ คือ 1. ดอกเบี้ยที่คำนวณจากยอดทั้งหมดที่คุณรูดไป 2.ยอดดอกเบี้ยที่คำนวณจากวงเงินคงเหลือหลังจากที่จ่ายคืนแบบขั้นต่ำไปแล้ว ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงภาระดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ควรพยายามชำระยอดบัตรเครดิตให้เต็มจำนวน หรืออย่างน้อยก็มากกว่าขั้นต่ำ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยและรักษาประวัติเครดิตทางการเงินที่ดี

ผ่อนจ่ายรายเดือน คืออะไร?


การผ่อนจ่ายรายเดือน คือการแบ่งยอดหนี้ทั้งหมดออกเป็นงวดๆ เท่าๆ กัน และจ่ายคืนทุกเดือนจนครบกำหนด โดยมีระยะเวลาผ่อนจ่ายหนี้ที่แน่นอน เช่น 3, 6 หรือ 10 เดือน ในอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง (อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินแต่ละแห่งกำหนด) ซึ่งการผ่อนจ่ายรายเดือนจะช่วยให้คุณสามารถบริหารเงินได้ง่ายขึ้น และคุณยังสามารถเลือกอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของตัวคุณเองได้อีกด้วย

จ่ายขั้นต่ำ vs ผ่อนรายเดือน แบบไหนปิดหนี้บัตรเครดิตเร็วกว่า

จ่ายขั้นต่ำ vs ผ่อนจ่ายรายเดือน แบบไหนปิดหนี้ได้ไวกว่า?


จริงอยู่ที่การจ่ายขั้นต่ำช่วยให้คุณมีสภาพคล่องทางการเงินในระยะสั้นๆ แต่การ "ผ่อนจ่ายรายเดือน" ช่วยให้ปิดหนี้ได้ไวกว่า เพราะการจ่ายขั้นต่ำจะทำให้คุณเสียดอกเบี้ยมากขึ้นเรื่อยๆ จนยอดหนี้พอกพูน ในขณะที่การผ่อนจ่ายรายเดือนจะช่วยให้คุณจ่ายเงินต้นได้มากขึ้นและลดดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายลง ทำให้หนี้สินลดลงอย่างรวดเร็วและปิดหนี้ได้ในที่สุด

อยากปิดหนี้บัตรเครดิต เริ่มต้นอย่างไรดี?


คำแนะนำสำหรับคนที่มีหนี้บัตรเครดิตและอยากลาออกจากวงการจ่ายขั้นต่ำ มีความมุ่งมั่นที่จะปิดหนี้บัตรเครดิตให้หมดในปีนี้ คุณสามารถเริ่มต้นในการจัดการหนี้บัตรเครดิตได้ง่ายๆ ด้วย 6 ขั้นตอนต่อไปนี้

1. สำรวจยอดหนี้และอัตราดอกเบี้ยที่มีทั้งหมด


การสำรวจยอดหนี้บัตรเครดิตและอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการจัดการหนี้สินอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยให้คุณทราบถึงภาพรวมของหนี้ทั้งหมดที่มีแล้ว ยังช่วยให้คุณรู้ว่าควรต้องจัดการหนี้ก้อนไหนก่อนเพราะมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า หนี้ก้อนไหนที่สามารถทยอยจ่ายได้ในภายหลัง การรู้ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการชำระหนี้ได้อย่างเหมาะสม และประเมินความสามารถในการชำระหนี้ในแต่ละเดือนได้แม่นยำยิ่งขึ้น

2. วางแผนชำระหนี้อย่างเป็นระบบ


การเลือกวิธีชำระหนี้ให้เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เช่น หากมีเงินก้อนให้นำเงินก้อนไปโปะหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อน เพื่อลดเงินต้นและดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากไม่มีเงินก้อนควรเลือกผ่อนจ่ายรายเดือน โดยพยายามจ่ายให้มากกว่าขั้นต่ำ เพื่อลดภาระดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในแต่ละรอบบิล นอกจากนี้ คุณอาจพิจารณาสินเชื่อรวมหนี้ (debt consolidation) เพื่อรวมหนี้หลายก้อนให้เป็นก้อนเดียว หรือเจรจาขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับสถาบันการเงิน เพื่อลดภาระการผ่อนจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนลง

3. จ่ายหนี้ให้ตรงเวลา


การจ่ายหนี้ตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาประวัติเครดิตที่ดี และป้องกันไม่ให้เกิดค่าปรับและดอกเบี้ยเพิ่มเติม ควรตั้งเตือนกำหนดชำระหนี้ในปฏิทินหรือใช้แอปพลิเคชันจัดการการเงิน เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่พลาดกำหนดชำระหนี้แต่ละก้อน

4. ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น


การลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือสำหรับจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากสำรวจค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน และตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น ค่าอาหารนอกบ้าน ค่าความบันเทิง หรือค่าสินค้าฟุ่มเฟือย รวมถึง ฝึกทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อให้เห็นภาพรวมของค่าใช้จ่าย และสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ คุณอาจพิจารณาหารายได้เสริม เพื่อเพิ่มรายได้และนำมาใช้ในการชำระหนี้

5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ


หากคุณไม่แน่ใจว่าจะจัดการหนี้สินอย่างไร หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน เช่น นักวางแผนการเงิน หรือที่ปรึกษาทางการเงิน ที่สามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และช่วยวางแผนการชำระหนี้ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ คุณอาจพิจารณาปรึกษาหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือด้านการจัดการหนี้สิน เช่น คลินิกแก้หนี้ หรือ เข้าร่วม โครงการคุณสู้ เราช่วย ก็ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้คุณบริหารจัดการหนี้ได้

6. รวมหนี้บัตรเครดิต ด้วยสินเชื่อรวมหนี้ ดอกเบี้ยต่ำ


หากคุณมีหนี้หลายก้อนจากบัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล การรวมหนี้เป็นก้อนเดียว จะช่วยลดภาระการจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนได้ เพราะสินเชื่อรวมหนี้ คือ การนำหนี้หลายก้อนมารวมเป็นก้อนเดียว โดยขอสินเชื่อใหม่จากสถาบันการเงินแห่งเดียว แม้จะมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานกว่า แต่อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าจะช่วยลดภาระการผ่อนชำระในแต่ละเดือนลดลง ช่วยให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น นอกจากนี้ การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวจะช่วยให้คุณจัดการหนี้สินได้ง่ายขึ้น ไม่สับสนกับการจ่ายหนี้หลายทาง ไม่เสี่ยงต่อการมีหนี้เสียที่อาจจะส่งผลต่อเครดิตทางการเงินในอนาคตได้

การจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเป็นเหมือนกับดักทางการเงินที่ทำให้หนี้สินพอกพูนอย่างรวดเร็ว เพราะดอกเบี้ยถูกคำนวณจากยอดหนี้คงค้าง ทำให้เกิดการคิดดอกเบี้ยซ้ำซ้อนหรือดอกเบี้ยทบต้น ยิ่งจ่ายขั้นต่ำนานเท่าไหร่ดอกเบี้ยยิ่งเพิ่มพูนเท่านั้น นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตทำให้การขอสินเชื่อในอนาคตเป็นเรื่องยาก การเปลี่ยนมาใช้สินเชื่อรวมหนี้จึงเป็นทางออกที่ดีกว่า เพราะช่วยลดภาระดอกเบี้ย จัดการหนี้สินได้ง่ายขึ้น ช่วยให้คุณหลุดพ้นจากวงจรหนี้สินและมีอิสรภาพทางการเงินในที่สุด

ปิดหนี้บัตรเครดิตง่ายๆ ด้วยสินเชื่อรวมหนี้ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย


สำหรับคนมีหนี้บัตรเครดิตหรือมีหนี้หลายก้อน อยากรวมหนี้เป็นก้อนเดียว และกำลังมองหาสินเชื่อรวมหนี้ ดอกเบี้ยต่ำ เราขอแนะนำสินเชื่อบุคคล เพอร์ซัลนัลแคช (Personal Cash) สินเชื่อรวมหนี้ ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระการจ่ายหนี้ของคุณในแต่ละเดือนให้เบาลง ไม่ต้องปวดหัวกับการจ่ายหนี้หลายทาง ไม่ต้องแบกดอกเบี้ยรายเดือนที่หนักเกินไป มีระยะเวลาการปิดหนี้ที่แน่นอน วางแผนการจ่ายหนี้ในแต่ละเดือนได้มากขึ้น

สมัครสินเชื่อรวมหนี้ สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช (Personal Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย


สินเชื่อบุคคล เพอร์ซัลนัลแคช (Personal Cash) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สินเชื่อรวมหนี้ รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ดอกเบี้ยต่ำ ที่จะช่วยให้คุณรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ปิดหนี้บัตรเครดิตได้เร็วขึ้น สำหรับพนักงานประจำที่มีเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป สมัครสินเชื่อบุคคล เพอร์ซัลนัลแคช ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้ 3 ช่องทาง

เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคล


  • กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
  • 9.99% ต่อปี อายุสัญญา 12 เดือน
  • อัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่าง 9.99% - 25% ต่อปี
  • อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารประกาศกำหนด

หมายเหตุ

  • วงเงินอนุมัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อของทางธนาคาร
  • เวลาให้บริการ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8:30 – 17:30 น.
  • ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม CIMB THAI Care Center โทร. 02 626 7777

Share :